Facts About จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม Revealed
Facts About จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม Revealed
Blog Article
คำบรรยายภาพ, หนึ่งในกฎกติกาใหม่ที่กำหนดขึ้นในสมัย จอมพล ป.
ส.ส.ผู้เสนอแก้กฎหมาย แจงทำไมต้องแก้ "สามีภรรยา" เป็น "คู่สมรส"
แต่เดิมการหมั้นและการสมรสต้องเป็นการกระทำระหว่างชายโดยกำเนิดและหญิงโดยกำเนิดเท่านั้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องหมั้น แต่เดิมอนุญาตให้ชายโดยกำเนิดเป็นฝ่ายเข้าไปหมั้นหญิงโดยกำเนิด หญิงจึงเป็นฝ่ายรับหมั้น บัดนี้กฎหมายจะอนุญาตให้บุคคลสองคนไม่ว่าเพศใดก็สามารถหมั้นและสมรสได้ เป็นการปลดล็อกเงื่อนไขเรื่องเพศในการหมั้นและการสมรส
“ไม่ได้คิดแยกประเทศ” เสียงจากศูนย์การเรียนรู้มิตตาเย๊ะฯ หลังถูกสั่งปิดจากกระแสต้านร้องเพลงชาติเมียนมา
คู่รักหลากหลายทางเพศ จะได้สิทธิอะไรจากกฎหมายนี้บ้าง ?
เพื่อประโยชน์ต่อการทำความเข้าใจและเตรียมต้อนรับกฎหมายฉบับนี้ จึงขอกล่าวถึงประเด็นสำคัญของกฎหมายสมรสเท่าเทียม รวมทั้งผลที่จะเกิดขึ้นเมื่อกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับ ดังนี้
เมื่อ ‘สมรสเท่าเทียม’ กำลังจะมา ประเทศไทยพร้อมหรือไม่ ที่จะ ‘เข้าใจ’ และ ‘เปลี่ยนแปลง’?
“พออังกฤษถอนตัวไป พม่าก็ประกาศอิสรภาพ โดยผู้นำเผด็จการทหารหรือรัฐบาลทหารพม่าก็มีวิธีคิดแบบชายเป็นใหญ่ ไม่ยอมรับเพศสภาพของคนที่เป็นเกย์ กะเทย” ดร.
นอกจากนั้นในมุมมองเรื่องหมั้น ที่แต่เดิมให้ชายโดยกำเนิดเท่านั้นที่จะเป็นผู้รุกเริ่มนำของหมั้นไปหมั้นหญิง ก็กลับกลายเป็นว่าใครใคร่หมั้นก็หมั้น ไม่มีข้อที่จะต้องบังคับกะเกณฑ์ว่าเพศชายต้องเป็นฝ่ายรุกเริ่ม ซึ่งหมายความว่า กฎหมายให้อิสระในการกำหนดชีวิตเป็นสถาบันครอบครัวของบุคคลโดยไม่คำนึงเพศ แม้กระทั่งเรื่องฝ่ายเริ่มต้นเข้าหาอีกฝ่ายเพื่อการมอบของหมั้น ก็ไม่มีการกำหนดเจาะจงเพศอีกต่อไป
สำรวจทุนจีนเทากำลังย้ายฐานสแกมเมอร์ออกจากชเวโก๊กโก่ จริงหรือไม่ ?
ในบทความดังกล่าวระบุว่า สาเหตุที่ผีเจ้านายเลือกปู๊แม่เป็นร่างทรง มาจากความเชื่อว่าคนเหล่านี้ไม่มีปัญหาเรื่องประจำเดือน สามารถดูแลเครื่องแต่งกาย หอผี ให้สวยงามสะอาดได้เหมือนผู้หญิง แต่ม้าขี่จำนวนหนึ่งก็รู้สึกว่าผู้คนเคารพผีเจ้านายที่เข้าทรงพวกเขา จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม หาใช่เคารพปู๊แม่ในฐานะบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ
เหตุใดประเทศไทยจึงเป็นมิตรกับผู้มีความหลากหลายทางเพศ มากกว่าชาติอื่นในเอเชีย ?
เหตุใดประเทศไทยจึงเป็นมิตรกับผู้มีความหลากหลายทางเพศ มากกว่าชาติอื่นในเอเชีย ?
เมื่อใดที่การเมืองกับตำรวจตัดไม่ขาด เมื่อนั้นแรงจูงใจในการพัฒนาองค์กรอาจไม่มากเท่าการวิ่งเต้นตำแหน่ง